เหตุการณ์ฉุกเฉินแบ่งออกเป็นสี่ระดับ เหตุฉุกเฉินต่างๆ ได้รับการจำแนกตามปัจจัยต่างๆ เช่น ธรรมชาติ ความรุนแรง ความสามารถในการควบคุม และขอบเขตของผลกระทบ และแบ่งออกเป็นระดับ 1 (ร้ายแรงอย่างยิ่ง) ระดับ 2 (ใหญ่) ระดับ 3 (ใหญ่กว่า) และระดับ 4 (ทั่วไป) ระดับที่สี่ ระบุเป็นสีน้ำเงิน สีเหลือง สีส้ม และสีแดง

เหตุการณ์ฉุกเฉินหมายถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภัยพิบัติจากอุบัติเหตุ เหตุการณ์ด้านสาธารณสุข และเหตุการณ์ด้านประกันสังคมที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อให้เกิดหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคมอย่างร้ายแรง และจำเป็นต้องมีมาตรการตอบสนองฉุกเฉิน เหตุฉุกเฉินระดับ 1 (ร้ายแรงโดยเฉพาะ) ได้รับการจัดระเบียบและจัดการโดยสภาแห่งรัฐ เหตุฉุกเฉินระดับ 2 (สำคัญ) ได้รับการจัดระเบียบและจัดการโดยรัฐบาลระดับจังหวัด เหตุฉุกเฉินระดับ 3 (ใหญ่กว่า) ได้รับการจัดระเบียบและจัดการโดยรัฐบาลท้องถิ่น เหตุฉุกเฉินระดับ 4 (ทั่วไป) ได้รับการจัดระเบียบและจัดการโดยรัฐบาลระดับเทศมณฑล เกณฑ์ทั่วไปและสำคัญที่สุดอีกประการหนึ่งคือการบาดเจ็บล้มตาย การเสียชีวิตมากกว่า 30 รายถือว่าร้ายแรงมาก 10-30 รายถือว่าร้ายแรง 3-10 รายถือว่าร้ายแรง และ 1-3 รายถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ลักษณะสำคัญของเหตุฉุกเฉิน:

1. เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เวลา สถานที่ และลักษณะของเหตุการณ์มีความไม่แน่นอน และลักษณะของเหตุการณ์มีความผันแปรสูง

2. สถานการณ์มีความซับซ้อน เหตุฉุกเฉินบางประการเกิดจากความขัดแย้งทางสังคมต่างๆ เช่น การเมือง วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ และศาสนา บางส่วนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ บางส่วนเกิดจากเทคโนโลยี อุปกรณ์ ฝีมือมนุษย์ และปัจจัยอื่นๆ และบางส่วน มีสาเหตุมาจากหลากหลายสาเหตุ เกิดจากการรวมกันของปัจจัยหรือการเปลี่ยนแปลงจากเหตุการณ์ทั่วไป

3. ผลกระทบในวงกว้าง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมตามปกติและความมั่นคงภายในขอบเขตที่กำหนด และเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของประชาชน

4. อันตรายนั้นร้ายแรง เหตุฉุกเฉินต่างๆ มากมายที่ปล่อยปละละเลยอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายและสูญเสียความมั่งคั่งทางสังคมอย่างหนัก ขัดขวางความสามัคคีของประชาชน เป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางสังคม และแม้กระทั่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของอำนาจของชาติ